พระเจดีย์กลางน้ำ จังหวัดระยอง
พระเจดีย์กลางน้ำ เป็นเสมือนสัญลักษณ์ประจำเมืองระยอง ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำระยอง โอบล้อมด้วยป่าชายเลน อยู่ในบริเวณก่อนถึงปากแม่น้ำระยอง ปัจจุบันได้มีการบูรณะดูแล และอยู่ในความดูแลของวัดปากน้ำ เพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน ที่อยู่ในบริเวณเดียวกันได้ด้วย
พระเจดีย์กลางน้ำ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 เมื่อปี พ.ศ. 2416 ช่วงพระยาศรสมุทร โภคชัยชิตสงคราม (เกตุ ยมจินดา) เป็นเจ้าเมืองระยองอยู่ในขณะนั้น เคยเข้ากรุงเทพและผ่านไปยังจังหวัดสมุทรปราการ เห็นองค์พระสมุทรเจดีย์ หรือเจดีย์กลางน้ำตั้งอยู่บริเวณเกาะกลางน้ำ จึงจำลองแบบมาสร้างให้เป็นสัญลักษณ์สำหรับชาวเรือที่มาถึงระยอง โดยสร้างเป็นเจดีย์ไว้บนเกาะกลางน้ำ โอบล้อมด้วยพื้นที่ป่าชายเลนประมาณ 52 ไร่ พระเจดีย์เป็นแบบก่ออิฐถือปูน สีขาว ทรงระฆังฐานกลม ส่วนยอดมีบัลลังก์สี่เหลี่ยม และเสาหานรองรับปล้องไฉน ปลียอดส่วนบนเป็นเม็ดน้ำค้าง ความสูงประมาณ 10 เมตร มีระเบียงล้อมรอบองค์ระฆัง 2 ชั้น มีบันไดขึ้น 2 ข้าง ลานด้านล่างโดยรอบปูด้วยกระเบื้องดินเผา สีอิฐ ด้านหนึ่งของพระเจดีย์กลางน้ำติดลำน้ำระยอง ส่วนอีกด้านเป็นส่วนที่ติดกับป่าชายเลนหนาทึบ ปัจจุบันมีสะพานตัดข้ามจากฝั่งไปยังเกาะสะดวกมากขึ้น
พระเจดีย์กลางน้ำ ทางกรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อ วันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2544 ในพื้นที่ 13 ไร่ พระเจดีย์กลางน้ำเป็นที่เคารพสักการะของชาวระยองเป็นอย่างมาก ในคืนวันเพ็ญเดือนสิบสองของทุกปี จะมีงานประเพณี "งานห่มผ้าเจดีย์กลางน้ำ" มีขบวนแห่มาทางแม่น้ำ ในพิธีมีการใช้ผ้าสีแดง ความยาว 6 เมตร ห่มองค์เจดีย์ตรงเรือนทาสทรงระฆังคว่ำ เพื่อเป็นการสักการะ บูชาองค์พระเจดีย์ นอกจากนี้ยังมีการจัดแข่งเรือยาว และลอยกระทงประจำปี ซึ่งจัดสืบทอดกันมานานกว่า 60 ปี
นอกจากนี้บริเวณพระเจดีย์กลางน้ำ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ อยู่ในส่วนของ "ศูนย์การเรียนรู้ป่าชายเลน พระเจดีย์กลางน้ำ" ภายใต้โครงการรักษ์ป่าชายเลน ที่สนับสนุนงบประมาณโดยโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี เป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติบริเวณป่าชายเลน มีสะพานปูน กั้นรั้ทั้งสองข้างทางเดิน ยาวประมาณ 200 เมตร ทอดยาวตามแนวป่าชายเลน เพื่อให้ได้ศึกษา เรียนรู้ระบบนิเวศของป่าชายเลย

ถนนยมจินดา ถนนคนเดิน

ถนนยมจินดา แหล่งท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรม เป็นถนนเก่าแก่ของเมืองระยอง ที่ถูกปลุกขึ้นมาใหม่ ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกลิ่นอายบรรยากาศเก่าๆ ของถนนยมจินดา ที่เคยเป็นถนนสายหลักใจกลางเมืองระยองในอดีต
แต่ก่อน เมืองระยองใช้แม่น้ำระยองที่ไหลผ่านใจกลางเมือง เป็นลำน้ำสายหลักในการติดต่อค้าขายและทำธุรกิจการค้า มีกิจการอู่ต่อเรือ ใช้การคมนาคม ทางน้ำขนส่งสินค้าขึ้นล่องไปยังหัวเมืองต่างๆ จนกระทั่งสมัย พระศรีสมุทรโภค (อิ่ม ยมจินดา) เจ้าเมืองคนสุดท้ายของเมืองระยอง ได้เริ่มสร้างถนนแห่งแรกขึ้น ให้ขนานไปกับแม่น้ำ ชื่อว่า ถนนยมจินดา ซึ่งกลายเป็นถนนที่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเมืองระยอง เป็นถนนที่เคยคึกคัก เต็มไปด้วยผู้คน ทำธุรกิจการค้า เป็นที่ตั้งของธนาคาร โรงหนัง ตลาด รวมถึงเป็นที่ตั้งของบ้านต้นตระกูลยมจินดา จนกระทั่งบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไป เมืองโดยรอบขยายตัวขึ้น มีถนนตัดผ่านมากขึ้น บ้านเรือนถูกเปลี่ยนสภาพเป็นตึกและอาคารสูงรูปทรงทันสมัย เหลือเพียงบ้านเรือนบนถนนยมจินดา ที่ยังคงสภาพบ้านเรือนตามรูปแบบวิถีชีวิตไทยเดิมๆ
ปัจจุบัน ด้วยความร่วมมือของชมรมอนุรักษ์ฟื้นฟูเมืองเก่าระยอง และเทศบาลเมืองระยอง ถนนยมจินดาได้ถูกปัดฝุ่น ให้บรรยากาศแบบเดิมๆ ฟื้นคืนขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อเป็นการอนุรักษ์ให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นบ้านเรือนในแบบโบราณ และชุมชนในภาพบรรยากาศเก่าๆ ชมบ้านเรือนในแบบอายุเกือบร้อยปี สิ่งของเครื่องใช้ในอดีต รวมถึงการเล่าเรื่องราวผ่านรูป และแฟ้มภาพเก่าๆ
อาคารบ้านเรือนทั้งสองฝั่งถนน ถูกซ่อมแซม และปรับแต่งบ้าง แต่ก็ยังคงสภาพรายละเอียดไว้ในรูปแบบเดิมๆ บรรยากาศบ้านเรือนบนถนนยมจินดา จึงแตกต่างจากการจัดบรรยากาศให้ดูเป็นแบบโบราณเหมือนที่อื่นๆ เพราะที่นี่เป็นบรรยากาศจริงจากวิถีชีวิตชุมชนเดิม จึงอบอวลไปด้วยความรู้สึกผูกพันของคนรุ่นเก่าที่อยากถ่ายทอดให้แก่คนรุ่นใหม่ให้รู้สึกรักและหวงแหนกับความเป็นไทยๆ